Online:

Visited:

 
 
 
 
 
ชมรมอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ระดับจังหวัด
จังหวัดสมุทรสงคราม
---------------------------------------------------

วัตถุประสงค์

ข้อ 1. ชมรมอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) จังหวัดสมุทรสงคราม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ครูบัญชีได้มีการรวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทาง ในการถ่ายทอดความรู้เพื่อสร้างเครือข่ายในชุมชน ได้มีศูนย์กลางสำหรับการรวมกลุ่มพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้ง ในข้อต่อไปนี้
(1) ส่งเสริมให้สมาชิกได้ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจและสังคมตามอัตภาพของแต่ละคน
(2) ส่งเสริมให้สมาชิกได้กระทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
(3) ให้ความร่วมมือกับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และราชการในการกรทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการ และชุมชน
(4) สนับสนุนด้านสวัสดิการแก่อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี)
(5) รวมพบปะสังสรรค์กับสมาชิกชมรม และเจ้าหน้าที่ของตรวจบัญชีสหกรณ์ตามที่เชิญ และตามโอกาสอันสมควร
 
ที่ตั้งชมรม

ข้อ 2. ชมรมอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) จังหวัดสมุทรสงคราม มีสถานที่ตั้ง ณ สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์สมุทรสงคราม 11/55 ถ.เอกชัย ต.แม่กลอง อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม

สมาชิกภาพ

ข้อ 3. สมาชิกของชมรมอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ประกอบด้วย
(1) ผู้ที่มีความเห็นร่วมกันในการริเริ่มจัดตั้งชมรมอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี)
(2) ผู้ที่มีคุณสมบัติของสมาชิกตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ และได้ยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกต่อคณะกรรมการชมรม ในพื้นที่ตั้งชมรม
ข้อ 4. สมาชิกต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
(1) เป็นอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
(2) เป็นผู้เห็นชอบในวัตถุประสงค์ของชมรมนี้
ข้อ 5. ผู้ที่ประสงค์จะเข้าเป็นสมาชิกให้ยื่นใบสมัครต่อประธานชมรมผ่านเลขานุการ ชมรม และให้เลขานุการชมรมแจ้งรายชื่อผู้สมัครเป็นสมาชิกใหม่ให้สมาชิกชมรมทราบ ด้วย การขาดสมาชิกภาพ
ข้อ 6. สมาชิกต้องขาดจากสมาชิกภาพด้วยเหตุ ดังนี้
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ถูกให้ออกโดยความเห็นชอบของกรรมการชมรม ค่าบำรุงและวิธีการชำระเงิน
ข้อ 7. ผู้เป็นสมาชิกชมรม ต้องชำระค่าบำรุงชมรม ดังนี้
(1) ชำระบำรุงค่าชมรมเป็นรายปี ๆ ละ 100 บาท
(2) ค่าสมัครแรกเข้า คนละ 20 บาท การชำระค่าบำรุง ตาม (1) และ (2) ให้ถือเป็นรายได้ของชมรมและเรียกคืนมิได้
ข้อ 8. ในการชำระเงินค่าบำรุง ให้สมาชิกชำระต่อเหรัญญิกของชมรม การประชุมใหญ่
ข้อ 9. ให้คณะกรรมการชมรมนัดสมาชิกมาประชุมกันเป็นการประชุมใหญ่ไม่น้อยกว่าปีละหนึ่งครั้ง
ข้อ 10. ที่ประชุมใหญ่มีอำนาจหน้าที่พิจารณาวินิจฉัย เรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของชมรมทุกเรื่อง ซึ่งรวมทั้งในข้อต่อไปนี้
(1) เลือกตั้งกรรมการชมรม
(2) พิจารณางบดุลและรายงานผลการดำเนินงานประจำปี
(3) พิจารณาจัดสรรรายได้ที่สูงกว่าค่าใช้จ่าย
(4) พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ
(5) กำหนดกิจกรรมดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของชมรม คณะกรรมการดำเนินการ
ข้อ 11. คณะกรรมการชมรมมีทั้งสิ้น 36 คน ประกอบด้วย กรรมการที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ของชมรมจำนวน 36 คน และกรรมการที่เป็นข้าราชการในสังกัดกรมตรวจบัญชีสหกรณ์จำนวน 3 คน ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 10 หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์สมุทรสงคราม คนหนึ่ง และผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาภูมิปัญญาทางบัญชี สู่บัญชีต้นทุนอาชีพประจำจังหวัดสมุทรสงคราม
ให้ คณะกรรมการดําเนินการเลือกตั้งในระหว่างกันเองขึ้นเป็นประธานกรรมการ และรองประธานกรรมการตำแหน่งละ 1 คน โดยให้ข้าราชการสองคนตามวรรคแรก ดำรงตำแหน่งเลขานุการ และเหรัญญิกตามลำดับ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษาของชมรมด้วยก็ได้
ข้อ 12. ให้คณะกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมของชมรมมีวาระอยู่ในตําแหน่ง คราวละ 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับเลือกตั้ง กรณีที่ยังมิได้เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ก็ให้คณะกรรมการดําเนินการชุดเดิมอยู่ในตําแหน่งไปจนกว่าจะได้มีการเลือก ตั้งใหม่
ข้อ 13. คณะกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ ต้องพ้นจากตําแหน่ง เพราะเหตุใด ๆ ดังต่อไปนี้
(1) ขาดจากสมาชิกภาพตามข้อ 6
(2) ถึงคราวออกตามวาระ
(3) ลาออก โดยแสดงความจํานงเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการ
ข้อ 14. ให้คณะกรรมการดําเนินการประชุมกันตามคราวที่มีกิจธุระ แลในการประชุมแต่ละครั้งต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจํานวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ข้อ 13. ให้คณะกรรมการมีอํานาจหน้าที่ดําเนินกิจการ ทั้งปวงของชมรมให้เป็นไปตามข้อบังคับ และมติที่ประชุมใหญ่ของชมรม กับทั้งในอันจะทําให้เกิดความเจริญแก่ชมรมทุกประการ ซึ่งรวมทั้งใน ข้อต่อไปนี้
(1) ดําเนินการในเรื่องนัดเรียกประชุมใหญ่ตามข้อ 9.
(2) กําหนดระเบียบต่างๆ ของชมรม
(3) ดูแลการเงินการบัญชีของชมรมให้ถูกต้องเรียบร้อย
(4) เสนองบดุลและรายงานประจําปีแสดงผลการดําเนินงาน ของชมรมต่อที่ประชุมใหญ่ การบัญชีและการเงิน
ข้อ 16. วันสิ้นปีทางบัญชีของชมรม คือ วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี
ข้อ 17. เมื่อสิ้นปีทางบัญชีทุกปี ให้ชมรมจัดทํางบดุลเพื่อให้ผู้สอบบัญชีที่ได้รับแต่งตั้งจากที่ประชุมใหญ่ของชมรมตรวจสอบ
ข้อ 18. ให้คณะกรรมการดําเนินการเสนองบดุลซึ่งผู้สอบบัญชีตรวจสอบรับรองแล้ว ตอนที่ประชุมใหญ่ เพื่อพิจารณาอนุมัติภายใน 90 วันนับแต่วันสิ้นปีทางบัญชี ที่มาของรายได้
ข้อ 19. กรณีชมรมได้รับเงินหรือสินทรัพย์จากการบริจาค ถ้าผู้บริจาคมิได้กำหนดเงื่อนไขการบริจาคเงินหรือสินทรัพย์ไว้อย่างใด ให้โอนเป็นเงินทุนของชมรมรวมทั้งในเรื่องต่อไปนี้
(1) การหารายได้ของสมาชิก เช่น การรวมกลุ่มนำผลิตภัณฑ์ของสมาชิกในแต่ละท้องถิ่นเพื่อขาย เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน
(2) การรวมกลุ่มนำผลผลิตทางกรเกษตรมาแปรรูปเพื่อเป็นสินค้าเฉพาะของชมรม การเลิกชมรม
ข้อ 20. กรณีชมรมต้องเลิก หากยังมีสินทรัพย์ต่าง ๆ คงเหลือ ให้โอนไปสมทบเป็น เงินทุนของสวัสดิการสํานักงานตรวจบัญชีสหกรณ์สมุทรสงคราม


ลงชื่อ ..........................................
(นายธนัย   พ้นภัย)
ประธานชมรม

ลงชื่อ.....................................
(.............................................)
เลขานุการ

 

 

 
 
 
FONTSIZE
 

 

 

สงวนลิขสิทธิ์ © 2557  สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์สมุทรสงคราม
เลขที่ 11/55 ถ.เอกชัย ต.แม่กลอง อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม 75000